ในฐานะผู้ชมงานศิลปะ นอกจากการที่ตัวผลงานมีปฏิสัมพันธ์กับเราโดยตรงในขณะที่ชม ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ศิลปินพยายามนำเสนอทุกครั้งไป แต่การได้รับทราบถึงที่มาของแรงบันดาลใจ และแนวคิดในการนำเสนอผลงานของศิลปิน ก็ยิ่งทำให้เราได้รับอรรถรสในการชมงานมากขึ้นไปอีก เพราะหลายๆครั้งที่แรงบันดาลใจและแนวคิดเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับหลายๆเรื่องราวที่ชีวิตของเรากำลังสัมพันธ์อยู่เช่นกัน
เมื่อฉันได้ไปเปิดหาดูภาพงานของคนที่ทำงานประติมากรรมเก่งๆ และมีฝีมืออันก้าวล้ำนั้นฉันก็พบว่า มันให้ทั้งคุณและโทษกับความรู้สึกในจิตใจของฉัน ในแง่ของการให้คุณ คือถ้าฉันมองงานเหล่านั้นในยามที่ภาวะจิตใจและอารมณ์อันเป็นปกติ ฉันก็จะเกิดความชื่นชมในงานเหล่านั้นและปิติกับความงดงามที่ปรากฏในงาน แต่ทว่าในยามนี้..ยามที่ฉันกำลังรู่้สึกตีบตันและอ่อนล้า เมื่อฉันมองงานของคนที่มีความสามารถเหล่านั้นแล้ว ก็อดเผลอคิด ดูถูกงานของตัวเองเสียไม่ได้
จะมีมาให้ชม ในโอกาสเเปิด เทศกาลอินเดีย( India Festival) ในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2557 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร และเป็นส่วนหนึ่งของงาน “วัชรยานบูชา การบำเพ็ญกุศลพระศพทางพระพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆ ปริณายก สัมพันธ์ อินเดีย-ไทย”
เร็วนี้ จะมีผลงานของศิลปินไทยกลุ่มแรก จำนวน 9 คน ถูกส่งไปชิมลาง ณ Paris Art Fair 2014 ประเทศฝรั่งเศส ในนาม แอดเลอร์ ศุภโชค แกลเลอรี่(Adler Subhashok Gallery) ในวันเซ็นสัญญาร่วมมือกัน และ Grand Opening ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับบทบาทของ Adler Subhashok Gallery ที่จะส่งผลต่อวงการศิลปะของไทยในอนาคต
บางครั้งฉันแอบคิด…..งานของฉันเหมือนแม่สาวน้อยบ้านนอก เธอพยายามทำตัวดีๆ ไปอยู่ในสถานที่ดีๆ เพื่อรอเนื้อคู่ของเธอ..รอใครสักคนที่จะมาพบเธอ รักเธอเมื่อแรกเห็น หรือวนเวียนมาจีบเธออยู่บ่อยๆ และในที่สุดก็พาเธอไปอยู่ด้วยอย่างมีเกียรติ เธอไม่สามารถจะพาตัวของเธอเองไปชายหูชายตาอยู่ตามตลาดนัดอย่างพร่ำเพรื่อได้..เพราะเธอเป็นสาวที่มีความฝัน..เธอจึงยอมอดบ้างมีบ้าง เพื่อรักษาเกียรตินั้นไว้ ในระหว่างการรอเนื้อคู่ของเธอ