การจะมีภาพถ่ายสักใบเพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน ในจำนวนนี้รวมถึงประชาชนจำนวนหนึ่ง ณ ท้องสนามหลวง ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อรอต่อแถวรับบัตรคิวเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขา เพราะคือการได้มาเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินที่พวกเขารักเป็นครั้งสุดท้าย

“ภาพที่บอกให้รู้ว่า คนไทยรักในหลวงมาก” คือคำกล่าวของผู้ชมส่วนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปชม นิทรรศการ “ทรงสถิตในดวงจำไทยนิรันดร์” และน่าจะเป็นการกล่าวแทนความรู้สึกของชาวไทยและชาวต่างชาติอีกหลายล้านคนด้วย

ผู้สนใจรับบริจาคหนังสือ สามารถไปรับได้ในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 ณ ประตูทางเข้าใหญ่ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ด้านถนนหน้าพระลาน เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป จนกว่าหนังสือจะหมด จำกัดจำนวน 1 เล่ม ต่อ 1 คนเท่านั้น

ด้วยปรารถนาให้โปสการ์ดช่วยย้ำเตือนให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ,น้อมนำพระราชดำรัสไปใช้ในการดำเนินชีวิต และเก็บโปสการ์ดไว้เป็นความทรงจำอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์สืบไป

สิ้นสุดลงเป็นวันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา สำหรับบรรดาศิลปินที่เข้าร่วม Project our beloved King โครงการมาราธอนเขียนภาพที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันละภาพต่อเนื่อง 9 วันและโพสต์ให้ชมทุก 9 โมงเช้า ตลอด 9 วัน มีผลงานของ พิราวรรณ น้ำดอกไม้ ศิลปินหญิงคนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการ สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “ทำอย่างพ่อ” 9 เรื่อง(ในเบื้องต้น) ที่พิราวรรณอยากทำอย่างพ่อ มีเรื่องอะไรบ้าง ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นตลอด 9 วันของเธอน่าจะช่วยให้คำตอบได้ดี

หลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรรยากาศการน้อมเกล้าฯ ถวายอาลัย ส่งดวงพระวิญญาณ เสด็จฯ สู่สวรรคาลัย ที่กรุงเทพมหานคร วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2559 เป็นอีกหนึ่งวันที่จะประทับอยู่ในความทรงจำของใครอีกหลายคนไปอีกนานเท่านาน