นอกจากเพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานศิลปกรรมของทั้งสองท่านแล้ว ยังเป็นการเล่าเรื่องเส้นทางชีวิตในการสร้างสรรค์ศิลปะผ่านผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ซึ่งได้นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ มากกว่า 200 ชิ้น

มาร์คัสจะพูดคุยถึงประสบการณ์ที่เขาใช้ความคิดสร้างสรรค์และวิธีคิดนอกกรอบเป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูเมืองในประเทศออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะโครงการพลิกฟื้นย่านช้อปปิ้งในตัวเมืองนิวคาสเซิล บ้านเกิดของเขาในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่เขาได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ร้านค้าที่ถูกทิ้งร้าง 150 ร้านให้กลายเป็นร้านกาแฟ แกลเลอรี่งานศิลปะ ร้านศิลปหัตถกรรม และร้านเสื้อผ้า

วานนี้ (1 พ.ค.59) แคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงอนุญาตให้มีการเผยแพร่พระฉายาลักษณ์ล่าสุด จำนวน 4 ภาพ ของพระธิดาองค์น้อย เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์ ซึ่งทรงมีพระชันษา ครบ 1 ชันษา ในวันนี้ (2 พ.ค.59)

ขณะที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Museum of Modern Art) ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มี The Starry Night หรือ ราตรีประดับดาว ภาพเขียนสีน้ำมันของศิลปินชาวดัทช์ วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van gogh) เวลานี้ที่สวนศิลปะแห่งหนึ่งที่นครจีหลิง ของไต้หวัน ก็มี Starry Paradise ภาพโมเสกในสวนขนาดใหญ่ที่สร้างจากขวดพลาสติกรีไซเคิล จำนวน 4 ล้านใบ

Pejac ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังชาวสเปน ผู้มีผลงานฝากไว้ในหลายประเทศ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ลงบนกำแพงบ้านของพวกเขาในประเทศจอร์แดน ประเทศซึ่งเปิดประตูต้อนรับผู้คนที่เดือดร้อนจากภัยสงคราม มาเป็นเวลาหลายสิบปี

สะท้อนมุมมองที่มีต่อคำว่า “ศิลปะ” และการบอกเล่าเรื่องราว ของศิลปินที่ใช้ตัวเองเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน โดยเฉพาะการนำเสนอ “พื้นที่ตรงกลาง” ระหว่างวัฒนธรรมสองขั้วจากสองซีกโลกที่ศิลปินได้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ ท่ามกลางยุคโลกาภิวัฒน์ ที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าไว้ด้วยกันผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต