อาจารย์ท่านนั้นฝากฝังความคิดและความหวังมากับฉัน “ผมอยากเห็นเหลือเกินคนที่เป็นคนท้องถิ่นจริงๆ แล้วทำงานดินเผา ทำงานเรื่องประวัติของหมู่บ้านเราเมืองเรา ผมหาเหลือเกินคนแบบนั้น” ฉันยิ้มรับคำพูดของอาจารย์ที่เพิ่งได้พบเจอ แล้วตอบกลับไปแบบสบายๆ ว่า ก็บางทีหนูอาจจะเป็นคนรุ่นนั้นกลับชาติมาเกิดกระมังคะอาจารย์ แต่มาในชาตินี้หนูก็ทำในแบบของหนู ในความเฉพาะเจาะจงที่หนูสนใจ แต่มันก็ยังคงความมีวิญญาณของนักปั้นดิน ที่บรรพบุรุษในท้องถิ่นนี้เคยเป็นมา
กลายเป็นประเด็นร้อนรับปี 2558 ของคนศิลปะบนโลกโซเชียล เมื่อ “ทิพย์ แซ่ตั้ง” ทายาท “จ่าง แซ่ตั้ง” ศิลปินผู้ล่วงลับ โพสต์ข้อความผ่าน facebook ถามถึงมาตรฐานคัดเลือกศิลปินไทยร่วมแสดงผลงานใน “มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่”อันเป็นมหกรรมศิลปะที่จัดขึ้นประจำทุกๆ 2 ปี ณ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกและประเทศไทยได้รับเชิญให้เป็นประเทศสมาชิก นำผลงานของศิลปินไทยไปร่วมแสดงครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2546
หลังจากที่เคยมีการจัดงาน เทศกาลศิลปะน่าน (Nan Arts Festival) ครั้งที่ 1 ตอน “น่าน เนิบ เนิบ “ ไปเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการนำกระบวนการทางศิลปะมาเป็นสื่อหลักในการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน เร็วๆนี้ ศิลปินหลากแขนงกำลังจะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานให้ชมอีกครั้ง ผ่าน “เทศกาลศิลปะน่าน ครั้งที่ 2” ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ณ สองฝั่งแม่น้ำน่าน (ในเขตเมือง)
แม้หลายด้านของชีวิตจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดสรรให้ลงตัว แต่การตั้งหลักจัดสรรชีวิต ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ และต้องพยายามหาหนทางกันต่อไป เพื่อให้หลายด้านของชีวิตเราดำเนินไปอย่างสอดประสานกัน เกิดความสมดุลย์ทั้งในเรื่อง การงาน ร่างกาย และจิตใจ หากว่าปีที่ผ่านๆมา ชีวิตโดยรวมของคุณยังดูคล้ายไม้หลักปักขี้เลน ช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ มาลองตั้งหลักกันใหม่อีกสักครั้ง