เหตุที่ร้านหนังสือ ท้ายตลาด ถูกเปิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Ceramic Art and Book Shop เพราะ ภรดี พันธุภากร ผู้เป็นเจ้าของร้าน นอกจากจะเป็นนักอ่าน เธอยังเป็นอาจารย์สอนด้านเซรามิก ที่มหาวิทยาลัยบูรพา

เพื่อที่ว่าจะได้ช่วยกันให้มันมีสไตล์ไทยเกิดขึ้น ซึ่งผมทำคนเดียว หรือกลุ่มผมทำกลุ่มเดียวไม่ได้ มันต้องการกำลังของคนรุ่นใหม่ เพราะวันข้างหน้าคุณก็ต้องเป็นกำลังหลัก คุณต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้เหมือนกัน ถ้าเผื่อคุณยังคิดว่าคุณยังเป็น Thai Designer ถ้าไม่งั้นคุณก็จะเป็นดีไซเนอร์เฉยๆทั่วไป แต่ถ้าเผื่อคุณเติมความเป็นไทย คุณก็จะเป็น Thai Designer”

เกณิกา และฐิติรัตน์ รัศมีฉายากุล สองพี่น้องเจ้าของร้าน “สุธาศิริกรอบรูป” ย่านบางพลัด พร้อมด้วยผู้ติดตามอีกประมาณ 4 คน ได้เดินทางมาที่ ASTVผู้จัดการ เพื่อขอแก้ข่าวว่าสิ่งที่อุ่นเรือน ภรรยาของท่านอังคารบอกกับสื่อไม่เป็นความจริง เพราะทางร้านได้ซื้อภาพเขียนของท่านอังคารมาอย่างถูกต้อง โดยการโอนเงินเข้าบัญชีของอุ่นเรือนมาโดยตลอด และขณะนี้ทางร้านมีภาพ ผู้หญิงสัปรด เหลืออยู่เพียงภาพเดียว ไม่ขายถ้าอุ่นเรือนอยากซื้อคืน

“บันทึกการแสดงสดของความรู้สึกในช่วงเวลานั้น” คือนิยามที่ อ๊อบ – ณีรนุช เอี่ยมอารยา อดีตมือกีต้าร์ของวง มีให้กับภาพถ่ายวิถีชีวิตคนปลูกชาแห่งดาร์จีลิ่ง แต่ละภาพ ของตัวเอง

ล่าสุด นางอุ่นเรือน กัลยาณพงศ์ ภรรยาของอังคาร ได้ออกมาให้ข่าวว่าขณะนี้ผลงานภาพเขียนชิ้นสำคัญๆทั้งชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลงานของอังคารที่ทางครอบครัวเก็บรักษาไว้เพื่อ “พิพิธภัณฑ์จิตรกรกวี อังคาร กัลยาณพงศ์” เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ได้ถูกขโมยไปขายให้ร้านทำกรอบรูปร้านประจำที่เคยใช้บริการมาเป็น 10 ปี และถูกขโมยไปโดยลูกจ้างหญิงภายในบ้านซึ่งทำงานด้วยกันมากว่า 20 ปี

ตอนนั้นฉันอายุยี่สิบปลายๆ ฉันเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องราวลี้ลับหลายอย่าง เป็นต้นว่าคาถาอาคม พระเครื่อง หรือเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะอยู่ในความสนใจของผู้ชาย แต่ก็ไม้เว้นสำหรับผู้หญิงแปลกๆ เช่นฉัน