มหาเศรษฐีตัวท็อปของโลก ที่ประกาศตัวเป็น LGBTQ+

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังตื่นตัวเรื่องการเปิดกว้างเสรีภาพในเรื่องเพศ ทั้งการผ่านกฎหมายให้สิทธิสมรสกับเพศทางเลือก ทั้งการปรับเปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัติมากมาย แต่ในประเทศสุดแสนเสรีภาพ อย่าง อเมริกา ที่ผู้นำคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับประกาศกร้าวว่า ไม่ยอมรับในเรื่องนี้ แถมยังกดดันให้สังคมกีดกันเรื่องเพศในหลายภาคส่วน แม้จะได้รับเสียงตอบรับจากแนวคิดฝั่งขวาซึ่งเป็นฐานเสียงหลัก แต่ในภาพรวมของสังคมอเมริกัน ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และมีคนออกเสียงคัดค้านอยู่มาก โดยเฉพาะ เหล่าคนดังและมหาเศรษฐีทั้งหลาย ที่เป็น LGBTQ+ พร้อมออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนสีรุ้งอยู่เสมอ

“ทิม คุ๊ก” หัวเรือใหญ่วัย 63 ปีของ APPLE แห่งแวดวงไอที ที่มีทรัพย์สินกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ประกาศตัวว่าเป็นเกย์เมื่อปี 2014 และเป็นกระบอกเสียงให้กับเพศทางเลือก ทั้งยังบริจาคเงินจำนวนมากให้กับองค์กรสิทธิเกย์ต่างๆ อยู่เป็นประจำ

“เจนนิเฟอร์ พริตซ์เกอร์” เจ้าของหุ้นเครือโรงแรมไฮแอทที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก นับเป็นสตรีข้ามเพศที่เป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้านคนแรก โดยเธอมีทรัพย์สินราวๆ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเธอได้แสดงถึงความเป็นผู้หญิงในตัว ต่อหน้าเหล่าพนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเปิดเผยเมื่อปี 2013

“สเตฟาโน กาบบานา และ โดเมนิโก ดอลเช” 2 คู่หูแห่งแบรนด์ D&G ที่มีทรัพย์สินรวมกันราว 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท ที่เป็นคู่ชีวิตและเพื่อนร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 1982 ก่อนจะสิ้นสุดสัมพันธ์ในนามคู่รักเมื่อปี 2003 แต่ยังคงความเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน

“ปีเตอร์ ธีล” หนุ่มอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน ที่มีทรัพย์สินกว่า 2 แสน 5 หมื่นล้านบาท ในกิจการต่างๆ โดยเฉพาะ บริษัทที่ทำเงิน อย่าง PayPal และ Facebook เขาประกาศตัวเป็นเกย์และเป็นนักเรียกร้องสิทธิตัวยง

“จิออร์จิโอ อาร์มานี” ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ดัง ที่แม้จะถึงวัย 90 ปีแล้ว แต่ยังคงเป็น LGBTQ+ ที่ทรงอิทธิพลที่สุด ด้วยความมั่งคั่งระดับ 4 แสนล้าน เขามีธุรกิจตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง และของตกแต่ง ผู้เป็นเสมือนไอคอนของชาวสีรุ้งมานานนับทศวรรษ