บนชั้น 28 ของอาคารวินด์แดม บางกอก ควีน คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เป็นที่ตั้งของร้าน MARIE GUIMAR (มารี กีมาร์) ที่เหมือนดั่งประตูทะลุมิติ พาคุณเดินทางย้อนไปสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยสูตรดั้งเดิมในอดีต ที่นี่เสิร์ฟเมนูตำรับโบราณที่หารับประทานได้ยาก หรือบางก็เพียงเคยได้ยินชื่อ ก็จะได้ลิ้มรสของจริงกันที่นี่
ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ชิโน-โปรตุกีส โชว์เสน่ห์ของลายไม้แกะและลวดลายของตกแต่งแบบจีนที่ให้ความรู้สึกเสมือนพาย้อนไปในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมซึ่งผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน คอนเซ็ปต์สะท้อนถึงชื่อร้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก มารี เดอ กีมาร์ หรือ“ท้าวทองกีบม้า” ผู้ที่ถือเป็นต้นตำรับขนมหวานเครื่องทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
เมนูของร้านเสิร์ฟอาหารคาวหวานสไตล์ไทยโบราณพื้นถิ่น 4 ภาค ที่หารับประทานได้ยาก โดยนำมาปรับรสชาติให้ถูกปากและเข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งกรรมวิธีการทำแบบดั้งเดิม เพื่อสืบสานและส่งต่ออาหารไทยไปสู่คนรุ่นใหม่ อย่าง เมนูค้างคาวเผือก ของว่างไทยตำรับชาววังที่นำเผือกนึ่งมาบดละเอียด นวดให้เข้ากับแป้งขนมจีบญวน สอดไส้ด้วยกุ้งสับผัดกับมันกุ้งมีสีแดงสวยปรุงรสจัด หอมกรุ่นด้วยใบมะกรูดซอยละเอียด ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมจับสันสวยงามคล้ายค้างคาวที่หุบปีก
เมนูโต่งเนื้อย่าง เมนูพื้นเมืองของจังหวัดเลยที่นำเนื้อชั้นดีมาย่างจนส่งกลิ่นหอม แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันกับน้ำยำที่มีส่วนผสมหลักจากกะปิ พริก กระเทียม ตะไคร้ และใบโหระพา หรือจะเป็นแกงบวน แกงระแวงซี่โครงแก้ว หรือแกงโสฬส ก็ล้วนหารับประทานได้ยากยิ่ง ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานที่สานต่อแนวคิดของ “ท้าวทองกีบม้า” โดยนำเอาความเป็นไทยผสมผสานกับกลิ่นอายตะวันตก อย่างทาร์ตผลไม้ ซูเฟล่มะตูม หรือ เครมบรูเล่เผือก ขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศส รสชาติกลมกล่อม ตัดหวานด้วยผลไม้ไทยตามฤดูกาล หรือจะมาแนวไทยอย่าง ขนมปลากริมไข่เต่า ขนมไข่กบนกปล่อยบัวลอยไอ้ตื้อ ที่คล้ายน้ำแข็งไส มีส่วนผสมของเม็ดแมงลัก ลอดช่อง ข้าวตอก และข้าวเหนียวดำ เสิร์ฟพร้อมน้ำกะทิอบควันเทียนหอมกรุ่น ฯลฯ
ร้านอาหาร มารี กีมาร์ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11.00-21.00 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์02-258-5697 หรือ www.marieguimarbkk.com