ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน หนึ่งในห้องอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นแห่งแรกของประเทศไทย เปิดตัวเมนูประจำปีใหม่ล่าสุด ที่ต้องการสานต่อเจตนารมย์ในการยกระดับอาหารและวัตถุดิบท้องถิ่นไทย ผ่านเมนูอาหารไทยแบบประยุกต์กับอาหารตะวันตก และยังคงมอบอิสระให้กับนักชิมทุกท่านเลือกสร้างเมนูได้ด้วยตนเอง พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป
โดยสามเสาหลักในการออกแบบเมนูอาหารใหม่นี้ยังได้คงรับอิทธิพลมาจากการเชิดชูคุณภาพของวัตถุดิบที่หาได้ในประเทศไทย การจัดการด้านความยั่งยืนทางเกษตรกรรมและการประมง ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการผสมผสานกรรมวิธีการทำอาหารในสไตล์ตะวันตกจนเป็นหนึ่งในตำนานของอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น รังสรรค์โดยเชฟเฮนริค อูล แอนเดอร์เซนและหัวหน้าพ่อครัวอาวุโส เชฟเบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์
เฉกเช่นเคยที่แขกทุกท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองที่บริเวณเลาจ์นของห้องอาหารฯ และประสบการณ์การรับประทานจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยได้ถูกนำเสนอ แต่ละชนิดได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ของเชฟเฮนริค อาหารขึ้นชื่อของไทยจากภูมิภาคต่างๆ และไอเดียการทำอาหารสุดสร้างสรรค์ของทั้งสองเชฟ ได้แก่ เมอแร็งก์วาซาบิโยเกิร์ต, เวเฟอร์สะเต๊ะ, น้ำพริกหนุ่มแคปหมูข้าวพอง, หอยทากทะเลปรุงรส,โดนัทไส้เห็ดชิเมจิผัดกะเพรา, เมี่ยงคำ และยำรากบัว เสิร์ฟตามธรรมเนียมของห้องอาหาร กิน กิน ในประเทศเดนมาร์ก ที่อาหารเรียกน้ำย่อยแต่ละจานจะถูกเสิร์ฟตามลำดับ เพื่อยกสร้างระดับของความเข้มข้นของรสชาติอาหาร
เมนูคอร์สหลักทั้งหมดประกอบหกเมนูใหม่ล่าสุด ได้แก่
ต้มโคล้งปลากรอบ (Smoked Fish Soup ‘Tom Klong Pla Grob’ with Cold and Warm Smoked Fish)
สลัดหอยแตงกวาน้ำมันกะเพราและผักชี (Scallop and Cucumber Salad with Basil Mayo and Coriander Oil)
ยำเทอร์รีนปลาหมึกยักษ์ (Terrine of Pulpo and Asparagus with Tamarind Yum Dressing)
ล็อบสเตอร์ค็อกเทลท็อปด้วยโฟมบิสก์ (Lobster Cocktail with Lobster Bisque Foam)
อกเป็ดราดซอสเอ็กซ์โอ (Duck Breast, Duck Terrine with XO Sauce and Crispy Duck Skin) ซึ่งอาหารแต่ละจานได้เล่าเรื่องราว ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจของทั้งสองเชฟที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของอาหารไทย
สิ้นสุดเมนูอาหารคาวด้วยการมาถึงของอาหารหวาน ได้แก่ พาร์เฟต์ข้าวโพดสเลปี้มะพร้าวเผา (Corn Parfait with Roasted Coconut Slurpee) ที่เชฟเฮนริคต้องการนำเสนอวิถีของคนไทยที่นิยมนำข้าวโพดมาทำเป็นอาหารหวาน ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมสาคูข้าวโพด ยกระดับด้วยการเลือกใช้ข้าวโพดและน้ำกะทิคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อปิดท้ายของการเดินทางของประสบการณ์การรับประทานอาหารในครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและเรื่องราวของอาหารไทย
The Legends of the Lotus – The Blooming Dawn ให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. (ลาสออเดอร์เวลา 14.00 น.) ราคา 2,200 บาท++ ต่อท่าน สำหรับแบบสามคอร์ส และราคา 3,800 บาท++ ต่อท่าน สำหรับแบบห้าคอร์ส เลือกจับคู่กับไวน์ได้ในราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท++ ต่อท่าน และมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ถึง 24.00 น. (ลาสออเดอร์เวลา 21.30 น.) ราคา 4,600 บาท++ ต่อท่าน พร้อมจับคู่กับไวน์นำเข้าชั้นดี คัดสรรโดยเชฟเฮนริค จำนวนหกแก้ว ราคา 4,100 บาท++ ต่อท่าน หรือเลือกรับเมนูค็อกเทลใหม่ที่พร้อมให้บริการ ราคาเริ่มต้นที่ 495++ ต่อแก้ว
(ราคาดังกล่าวยังไม่รวมเครื่องดื่ม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com
หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ kempinski.com/en/siam-hotel/restaurants-bars/sra-bua-by-kiin-kiin/legends-of-the-lotus