Hot Topic

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ องค์ต้นแบบ "ใส่ชุดไทยอย่างไรให้สนุก?"

Pinterest LinkedIn Tumblr


เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยได้เสนอ “ชุดไทย” ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของ ยูเนสโก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2567 และเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนอนุสัญญาของยูเนสโก ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของยูเนสโกในปี พ.ศ. 2569 โดยจะมีการตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียด จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของยูเนสโก ที่ยึดหลักความโปร่งใส ความเคารพซึ่งกันและกัน และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้ชุดไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก


วันนี้ เซเลบออนไลน์จะพามาทำความรู้จักกับ “ชุดไทย” เครื่องแต่งกายประจำชาติไทย ซึ่งมีหลายประเภทและรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามประเพณี วัฒนธรรม และโอกาสที่สวมใส่ โดยชุดไทยที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ชุดไทยพระราชนิยม ซึ่งที่ได้รับการออกแบบและส่งเสริมโดย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่ออนุรักษ์และสืบสานความเป็นไทย ให้มีความงดงาม สง่า และแสดงถึงความเป็นไทย อาทิ ชุดไทยเรือนต้น, ชุดไทยจิตรลดา, ชุดไทยอมรินทร์, ชุดไทยบรมพิมาน, ชุดไทยดุสิต, ชุดไทยจักรี, ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ

หลายคนอาจแยกไม่ออกว่า ชุดไทยแต่ละแบบดังกล่าวแตกต่างกันเช่นไร จึงขอนำชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงฉลองพระองค์อย่างสวยงามเลอค่า มาให้ได้รู้จักกัน


ชุดไทยเรือนต้น : ตั้งชื่อตามเรือนต้นในพระที่นั่งอัมพรสถาน นิยมใส่ในงานลำลองที่ไม่เป็นพิธีการ เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์แบบกันเอง หรืองานบำเพ็ญกุศลทางศาสนา เป็นเสื้อคอกลมตื้นไม่มีขอบ แขนกระบอก 3 ส่วน ชายเสื้อเสมอตัว ตัวเสื้อเข้ารูปพอดีตัว ด้านหน้าผ่าตลอด ติดกระดุม 5 เม็ด และแยกกับตัวซิ่น ส่วนผ้าซิ่นจะเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม ที่มีลวดลายตามขวางหรือตามยาว อาจใช้ผ้าเกลี้ยง (ไม่มีลวดลาย) แบบมีเชิง (มีลวดลายที่ชายผ้า) หรือนุ่งแบบป้ายข้าง ความยาวผ้าซิ่นกรอมข้อเท้า


ชุดไทยจิตรลดา : ตั้งชื่อตามพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นิยมใส่ในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น ต้อนรับแขกเมืองหรือพิธีสวนสนาม ตัวเสื้อเป็นเสื้อคอกลมมีขอบตั้งน้อยๆ แขนกระบอกความยาวจดข้อมือ ผ่าหน้าติดกระดุม 5 เม็ด ตัวเสื้อเข้ารูปและแยกกับผ้าซิ่น ผ้าซิ่นเป็นผ้าไหมมีลายขวางหรือไหมเกลี้ยง หรือมีเชิง นุ่งแบบป้ายข้างความยาวกรอมข้อเท้า


ชุดไทยอัมรินทร์ : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย ใช้ผ้าไหมยกดอกที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งตัว นิยมใส่ในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น งานวันเฉลิมพระชนมพรรษา ตัวเสื้อเป็นคอกลมมีขอบตั้งแขนกระบอกยาวจดข้อมือผ่านหน้าติดกระดุม 5 เม็ด ตัวเสื้อเข้ารูป นิยมใช้ผ้าพื้นสีอ่อน ส่วนผ้าซิ่นเป็นผ้าไหมดิ้นเงิน ดิ้นทอง มีเชิง นุ่งแบบป้ายข้าง ความยาวกรอมข้อเท้า


ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรมพิมาน ใช้ผ้ายกไหม ยกทองมีเชิง หรือยกทองทั้งตัว นิยมใส่ในโอกาสที่เป็นทางการระดับสูง ในเวลากลางวันหรือค่ำ เช่น งานราตรีสโมสร เป็นเสื้อคอกลม มีขอบตั้ง แขนกระบอกยาวจดข้อมือ ผ่าหลังติดซิปตัวเสื้อเข้ารูป นำชายเสื้อไว้ในผ้าซิ่น ส่วนผ้าซิ่นจะเป็นผ้าไหมดิ้นเงิน หรือดิ้นทอง มีเชิง นุ่งแบบจีบหน้านาง ความยาวกรอมข้อเท้า


ชุดไทยดุสิต : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ใช้ผ้ายกไหม หรือยกทอง อย่าง แบบไทยอัมรินทร์ ไทยบรมพิมาน และไทยจักรี นิยมใส่ในงานพิธีตอนกลางคืน ใช้แทนชุดราตรีแบบตะวันตก เช่น งานราตรีสโมสร เป็นเสื้อคอกลมกว้างไม่มีแขน คอด้านหน้าและด้านหลังคว้านกว้างผ่าหลัง ปักลวดลายด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง มุก ลูกปัด หรือเลื่อม อย่างสวยงาม ตัวเสื้อกับซิ่นเย็บติดกันหรือแยกกันก็ได้ ส่วนผ้าซิ่นจะเป็นไหมสีเรียบ หรือผ้ายกดอกสีอ่อนๆ นุ่งแบบจีบหน้านาง ความยาวกรอมข้อเท้า คาดเข็มขัดทับขอบซิ่น


ชุดไทยจักรี : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ใช้ผ้ายกมีเชิง หรือยกทั้งตัว นิยมใส่ในพิธีการสำคัญตอนค่ำ เช่น งานเลี้ยงรับรองแขกเมือง ปัจจุบันคนนิยมนำมาเป็นชุดเจ้าสาว ในงานเลี้ยงฉลองสมรส เป็นเสื้อเปิดไหล่ข้างหนึ่ง ใช้สไบห่มแบบเฉียง สไบทับผ้าซิ่นจะเย็บติดกันหรือแยกกันก็ได้ ชายสไบคลุมไหล่และทิ้งชาย ผ้าซิ่นเป็นผ้าไหมดิ้นเงินหรือดิ้นทอง นุ่งแบบจีบหน้านาง ยาวกรอมข้อเท้า


ชุดไทยศิวาลัย : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งศิวาลัย ใช้ซิ่นไหมหรือยกทอง นิยมใส่ในพิธีการที่มีหมายกำหนดการ ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นเสื้อคอกลมมีขอบตั้งแขนกระบอกความยาวจดข้อมือ ผ่าหลังติดซิป ห่มสไบกรองทองทับเสื้ออีกทีหนึ่ง ชายสไบทิ้งไปด้านหลัง ให้ความยาวจดชายผ้าซิ่น ผ้าซิ่นเป็นใหม่ยกดิ้นทอง นุ่งแบบจีบหน้านาง ความยาวกรอมข้อเท้า


ชุดไทยจักรพรรดิ : ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ใช้ซิ่นไหม หรือยกทอง สวมใส่ในงานพิธีอย่างเป็นทางการตอนค่ำ เช่น งานพิธีรับรองพระมหากษัตริย์ต่างประเทศ จะเป็นสไบห่ม 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นสไบทึบ ชั้นที่ 2 เป็นสไบปักดิ้นทอง ทิ้งชายสไบไว้ด้านหลัง ความยาวถึงปลายผ้าซิ่น ผ้าซิ่นเป็นผ้าไหมนุ่งแบบจีบหน้านาง ความยาวกรอมข้อเท้า คาดเข็มขัดทับขอบซิ่น

Comments are closed.

Pin It