รับตำแหน่ง “ท่านเซอร์” มาเสริมเกียรติยศไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ “เดวิด เบคแฮม” ได้ขึ้นเทียบชั้นกับอดีตนักฟุตบอลอังกฤษระดับตำนานสมภาคภูมิ ความสำเร็จของเขาไม่ได้มาจากเพียงผลงานบนสนามหญ้าแต่การทำงานนอกสนามหลังแขวนสตั๊ด ก็ทำให้เขามีชื่อเสียง เกียรติยศ ต่อยอดได้อีกไกล รวมไปถึงเม็ดเงินในกระเป๋า ที่เพิ่มพูนทวีขึ้นในทุกวัน
เบคแฮมพัฒนาการจากนักฟุตบอลอาชีพ มาเป็นนักธุรกิจที่ชาญฉลาด เขาได้รับการสนับสนุนจากบริษัทโฮลดิ้งด้านการตลาดขนาดใหญ่ ที่มีบริษัทผลิตรายการของตัวเอง การปรากฏตัวทุกครั้งล้วนเป็นการประชาสัมพันธ์ ซึ่ง “วิกตอเรีย” และลูกๆ ของเขาก็เข้าร่วมด้วย ภาพแฟมิลี่แมนที่เห็นกัน แม้จะดูเป็นธรรมชาติในตอนแรกนั้น แท้จริงแล้วเป็นผลงานของเครื่องจักรการตลาด ตั้งแต่การเล่าเรื่องไปจนถึงการจัดแสง ตำแหน่งถูกวางไว้อย่างชาญฉลาด ด้วยข้อตกลงโฆษณามูลค่าหลายร้อยล้าน
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือ DRJB Holdings Limited บริษัทโฮลดิ้งแบรนด์ของเบคแฮม ข้อตกลงทางธุรกิจและโฆษณาจำนวนมากมาย เบคแฮมไม่ได้ทำหน้าที่แค่เสนอหน้าหรือแสดงชื่อเท่านั้น แต่เขานำผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรโฆษณา มาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวด้วย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโมเดลธุรกิจ “ผู้คนติดตามตัวบุคคล ไม่ใช่ติดตามแบรนด์”
ตั้งแต่ยังเล่นฟุตบอลอาชีพ เบคแฮมก็มีผลงานระดับโลก เขาวางรากฐานให้กับสิ่งนี้ ด้วยการเดินทางเพื่อการตลาดในเอเชีย กับสโมสรเรอัล มาดริด ในปี 2003 ป้ายโฆษณาในประเทศจีนปี 2005 และการย้ายไปร่วมทีมแอลเอ แกแล็กซีที่สหรัฐอเมริกาในปี 2007 ทุกวันนี้ เบคแฮมและกลุ่มนักลงทุนเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลอินเตอร์ ไมอามี ของอเมริกา ซึ่งดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้สำเร็จด้วยการเซ็นสัญญากับซูเปอร์สตาร์ อย่าง “ลิโอเนล เมสซี”
นอกจากนั้น เบคแฮมยังมีบทบาทในเอเชียและตะวันออกกลาง อย่าง การเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับกาตาร์ เจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 (จากดีลนี้เขามีรายได้ถึง 180 ล้านดอลลาร์สำหรับสัญญา 10 ปี) และกับอาลีบาบา ผู้ค้าปลีกออนไลน์ของจีน สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2024
ในโซเชียลมีเดีย ครอบครัวเบคแฮมและลูกๆ ทั้งสี่คน ต่างก็แสดงความรักกลมเกลียวกัน โดยผสมผสานแบรนด์และการโปรโมตตัวเองอย่างชาญฉลาด โดยครอบครัวเบคแฮมมีผู้ติดตามบนไอจีรวมกันเกือบ 200 ล้านบัญชี เดวิดเป็นราชาด้วยจำนวน 88 ล้าน และพลิกโฉมตัวเองมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์อย่างเต็มตัว และรู้จักใช้สื่อโซเชียลในมือให้เกิดประโยชน์ที่สุด เราจึงได้เห็นภาพอบอุ่นแสนสุขชวนฝันผ่านกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในครอบครัวอยู่เสมอ ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และสร้างมูลค่าเม็ดเงินให้กับแบรนด์เบคแฮม ที่ปัจจุบันนี้ ว่ากันว่ามูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
Comments are closed.